สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวัน ตามล่าชานมไข่มุก เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “อัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเอเชีย” เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาหารนานาชนิดให้เลือกลอง และแหล่งช้อปปิ้งแสนจะถูก ที่นักช้อปทั้งหลายใฝ่ฝันที่จะได้ไประเบิดกระเป๋ากันสักครั้ง นอกจากนี้ประเทศไต้หวันยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างลงตัวมากๆ เลยทีเดียวค่า
ตึกสูงระฟ้า เป็นหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไต้หวันเลยล่ะค่ะ เพราะตึกนี้เคยถูกจัดให้เป็นตึกที่สูงที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2004 – 2010 ด้วยความสูง 101 ชั้นที่อยู่เหนือพื้นดิน และ 5 ชั้นอยู่ใต้ดิน ตึกนี้ได้รับการรับรองจาก Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) ให้เป็นอาคารสีเขียวที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดอีกด้วย ไทเป 101 คือหนึ่งแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปคู่กับตึกนี้
แค่ชื่อขึ้นมาก็ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้ว บอกเลยความสวยก็ไม่แพ้กันแน่นอนค่ะกับ Sun Moon Lake หรือ ทะเลสาบสุริยันจันทรา ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาไต้หวัน รายล้อมไปด้วยภูเขา ต้นไม้ และหมู่บ้านชนบท มีเส้นทางเดินเท้า ได้รับการขนานนามให้เป็น 1 ใน 13 พื้นที่ที่สวยที่สุดในไต้หวัน และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดด้วยค่ะ โดยมีขนาดอยู่ที่ 7.93 ตารางกิโลเมตร ลึก 27 เมตร และสูง 2,454 ฟุต
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง (National Palace Museum) ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุ หรือของสะสมของจักรพรรดิ์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ งานศิลปะตั้งแต่สมัยยุคหินจนถึงยุคสมัยใหม่ จำนวนกว่า 700,000 ชิ้น มีอายุราวๆ 8,000 ปี นอกจากชิ้นงานหรือวัตถุต่างๆ จะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้ว การก่อตั้งของพิพิธภัณฑ์เองก็ยังมีประวัติที่น่าสนใจมากไม่แพ้กันเลยค่า
เริ่มต้นตั้งแต่การสร้างพระราชวังโบราณขึ้นมานั้นก็เพื่อเก็บของสะสมที่ได้มาจากพระราชวังในสี่สมัย ได้แก่ ราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หยวน ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ชั่วคราวในทุกๆ วันเสาร์และวันอาทิตย์เวลาบ่ายโมงจนถึงหกโมงเย็น ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนการเข้าชมตามพิพิธภัณฑ์พระราชวังในประเทศต่างๆ อย่างฝรั่งเศส และเยอรมัน จึงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณอย่างเป็นทางการ และสร้างถนนเข้าชมขึ้นมาใหม่ห้าแถว เพื่อเปิดให้คนภายนอกเข้ามาชมค่ะ แต่การรุกรานของญี่ปุ่นทำให้ของสะสมจำนวนไม่น้อยสูญหายระหว่างการเดินทางเป็นหมื่นลี้ ผ่านเมืองสำคัญต่างๆ เช่น เมืองหนานจิง เมืองกุ้ยหลิน เมืองเสฉวน เมืองเฉินตู และยังไปจัดแสดงที่นิทรรศการศิลปะเมืองจีนที่ถนนหนานหลู้ หลังจากชนะสงครามแล้ว จึงเลือกที่จะนำของสะสมอันล้ำค่าย้ายมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กงแห่งนี้นั่นเองค่า
อีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ของไต้หวันที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือ อนุสรณ์สถานเจียง ไคเชก ที่สร้างขึ้นเพื่อการรำลึก และเทิดทูนอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเชกค่ะ ตัวอาคารสีขาวขนาด 4 ชั้นตั้งอยู่กลางจัตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) ภายในเป็นที่จัดแสดงเรื่องราว และประวัติศาสตร์ของท่านประธานาธิบดีเจียง ไคเชก รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว รถยนต์คันโปรด มีการจำลองพื้นที่ทำงานและขั้นตอนต่างๆ ในขณะปฎิบัติงานของท่านให้ชมอีกด้วยค่า บริเวณผนังรอบรูปปั้นนั้นถูกเติมแต่งไปด้วยปรัญชาของท่านอดีตประธานาธิบดีในด้านการเมือง และการปกครอง ได้แก่ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์
จิ่วเฟิ่นเมืองโบราณที่สร้างแรงบันดาลใจให้อนิเมะชื่อดัง จนกลายเป็นต้นแบบโรงอาบน้ำใน Spirit Away การ์ตูนญี่ปุ่นที่หลายๆ คนต่างก็รู้จัก ทำให้จิ่วเฟิ่นกลายเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตขึ้นมา ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ว่ากันว่าเคยเป็นเหมืองทองที่รุ่งเรืองมากในสมัยนั้น ในช่วงสงครามญี่ปุ่นได้เข้ามารุกรานจึงทำให้อาคารบ้านเรือนในพื้นที่นี้เป็นเหมือนสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นอยู่มาจนทุกวันนี้ค่ะ
บริเวณเขตชานเมืองทางตอนเหนือของเมืองเกาสง มีทะเลสาบดอกบัวขนาดใหญ่ที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก ซึ่งภายในทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของเจดีย์สูงขนาด 7 ชั้น ตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ชื่อว่า เจดีย์มังกรและเสือ (Dragon and Tiger Pagodas) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1976 เป็นวิหารของวัดฉือจี (Cihji Palace) ตัวอาคารทำจากอิฐสีส้ม ตามมุมและเสาต่างๆ ถูกประดับด้วยมังกรและเสือตัวน้อยๆ สีสันสดใส ด้านในตัวของทั้งมังกรและเสือตัวใหญ่นั้น จะมีภาพเขียนที่แสดงถึงพุทธศาสนา และลัทธิเต๋าที่ลงลายลักษณ์อักษรเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ส่วนภายในวิหารตกแต่งด้วยภาพวาดของพระโพธิสัตว์ และในเจดีย์เสือประดับด้วยภาพวาดของสิบสอง Magi และราชวังสามสิบ Jade จักรพรรดิ เช่นเดียวกับภาพวาดของขงจื๊อค่ะ
อุทยาน โฝ กวง ซาน เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีการประดิษฐ์สถานของพระพุทธรูปทองคำที่สูงที่สุดในโลก! พร้อมขนาบข้างด้วยเจดีย์ขนาดใหญ่ 8 องค์ เรียงทอดยาว 2 ทางเดิน พร้อมฉากหลังเป็นทิวทัศน์ภูเขา เป็นภาพที่สวยงามอลังการจริงๆ ค่า โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสร้างวัด และเจดีย์จากประเทศอินเดียหรือแหล่งกำเนิดพระพุทธศาสนานั่นเอง
ภายในจะมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธเจ้า โฝ กวง ซาน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุพนมแห่งพระศากยมุนี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพุทธศรัทธา และยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระเขี้ยวหรือฟันของพระพุทธเจ้าด้วยนะคะ เจดีย์ 8 องค์ ด้านหน้านั้นถูกเปรียบเสมือนทางเดินที่มุ่งไปสู่พุทธะ ซึ่งแต่ละองค์ก็จะนำเสนอนิทรรศการเกี่ยวเพราะพุทธศาสนา และยังมีห้องรับแขก ห้องสมุดและสถานที่สำหรับคนที่ต้องทำบทเรียนหรือคัดลอกพระสุตตันตปิฎก และเป็นห้องรับรองสำหรับการจัดงานแต่งงานอีกด้วย
ซีเหมิงติง สวรรค์ของนักช้อปและแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น ที่ถูกเรียกว่า “ฮาราจุกุของไทเป” เพราะเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวันเลยก็ว่าได้ค่ะ ความเอ็นเตอร์เทรนด์ทุกรูปแบบถูกรวมไว้ที่นี่ทั้งหมดแล้ว!~ ทั้งร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ร้านนั่งชิวจิบเบียร์ คาราโอเกะ โรงหนัง ร้านขายของอีกเพียบ รวมทั้งห้างใหญ่ๆ อีกด้วยนะคะ ถ้าใครมาไต้หวันแล้วอยากช้อปปิ้ง เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอางค์ ของกระจุ๊กกระจิ๊ก เป็นของฝากติดไม้ติดมือละก็…ต้องที่นี่เลย ช้อปกันตั้งเช้ายันมืดไปเลยค่าาาา
นอกจากร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ แล้ว ที่ซีเหมิงติงยังมี “ถนนภาพยนตร์” เป็นถนนเส้นยาวที่เต็มไปด้วยโรงภาพยนตร์ IMAX โรงละคร และยังมี “ถนนอเมริกา” ที่เป็นแหล่งรวมของมือสองจากต่างประเทศ รวมทั้งบาร์และศูนย์แสดงศิลปะร่วมสมัย The Red Houes ที่สร้างขึ้นในปี 1908 นั่นทำให้ซีเหมิงติงเป็นย่านศูนย์กลางวัฒนธรรม และสถานที่รวมตัวยอดฮิตของไต้หวันเลยล่ะค่า
บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถ่ว (Beitou Hot Spring) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีเสียงที่สุดของไทเปค่ะ ที่นี่สะดวกสบายสุดๆ พร้อมรอให้นักท่องเที่ยวมาดื่มด่ำกับน้ำพุร้อน สถานที่นี้เกิดขึ้นในช่วงการยึดครองของญี่ปุ่น และถูกพัฒนาให้กลายเป็นรีสอร์ท โรงแรมขนาดเล็ก บ้านชา สวนสาธารณะ และห้องอาบน้ำสาธารณะ หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างสถานีรถไฟขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชื่นชมกับความสวยงามของบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้
บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถ่วมีบริการบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวด้วยนะคะ ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ถึงกับต้องจองห้องพักล่วงหน้ากันเลยล่ะค่ะ น้ำพุร้อนธรรมชาตินี้ประกอบไปด้วยแร่ธาตุ 3 ชนิด ได้แก่ กำมะถันสีเขียว (สีเขียวเล็กน้อย ซึ่งมีเฉพาะใน Beitou และ Akita, Japan) กำมะถันสีขาว (ฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นที่จะกลายเป็นสีนม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำพุร้อนในพื้นที่) และกำมะถันเหล็ก (น้ำพุโปร่งใส พบบริเวณ ติง เป่ยโถ่ว) ในการอาบน้ำแต่ละครั้งจะมีกฎเกี่ยวกับการแยกเพศ และไม่ว่าจะอาบน้ำหรือไม่ จะต้องสวมเสื้อผ้า ซึ่งยังมีกฎระเบียบอื่นๆ อย่างเช่น การนำเอาอาหาร และเครื่องดื่มเข้าไปในพื้นที่จะมีข้อจำกัดจ้า