logo
clock
logo

บทความท่องเที่ยว

ทัวร์พม่า

March 23, 2020 | by travelland

เที่ยวเจดีย์ชเวดากอง สักการะพระพุทธไสยาสน์ ชมเจดีย์โบตะทอง ขอพรเทพทันใจ, ย่างกุ้ง (The Shwedagon Pagoda, The Reclining Buddha, Botataung Pagoda and Natboboyee, Yangon)

เจดีย์ชเวดากอง

มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในพม่าที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้ความสนใจ เจดีย์ชุบทองแห่งนี้มีความสูงถึง 99 เมตร ถูกรายล้อมไปด้วยเจดีย์เล็กอีก 64 องค์ ประดับด้วยเพชรกว่า 7,000 เม็ด จึงถูกเรียกว่า “มงกุฎแห่งพม่า” ด้านในนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาเล็กๆ ในใจกลางเมืองย่างกุ้งสามารถมองลงมาเห็นบ้านเมืองรอบๆ ได้อย่างทั่วถึง เจดีย์ชเวดากองมีอายุราว 2,500 ปีมาแล้ว ถูกสร้างขึ้นโดยชาวมอญ และยังเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในพม่าด้วยค่ะ สำหรับการขึ้นไปเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากองนั้นสามารถขึ้นไปทั้งหมด 4 ทาง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราแนะนำว่าให้ไปขึ้นที่โซนกลางค่ะ ฝั่งนั้นจะเป็นทางขึ้นแบบลิฟต์โดยสาร การเข้าชมวัดในประเทศพม่านั้นเน้นว่าทุกที่ที่เป็นเขตวัด ต้องถอดรองเท้านะคะ เมื่อไปถึงทางขึ้นที่นั่นจะมีถุงให้ใส่รองเท้าเพื่อถือ ถ้าเป็นที่เจดีย์ชเวดากองก็จะเดินสบายเท้าหน่อย ถ้าอากาศไม่ร้อน ย้ำ! ถ้าอากาศไม่ร้อนนะคะ เพราะถ้าอากาศร้อนละก็…กระโดดๆ เขย่งๆ แบบสำรวมแล้วกันเนอะ มันทำอะไรไม่ได้แล้วจ้าาา นึกถึงบุญกุศลที่กำลังจะทำเนอะ ฮิฮิ

สำหรับบริการธูปเทียน และดอกไม้ที่ใช้สำหรับการบูชาอย่างดอกมหาหงส์ จะถูกร้อยไว้ตั้งจำหน่ายอยู่โซนด้านหน้าลิฟต์ค่ะ แนะนำว่าการไปเปิดประสบการณ์ครั้งแรกให้ไปกับทัวร์ จะค่อนข้างสะดวกสบายมากกว่าไปลุยด้วยตัวเองนะคะ เหมาะสำหรับการไปเป็นทริปครอบครัวด้วยน้า ทุกอย่างทัวร์จะเตรียมไว้ให้ทั้งหมด แม้กระทั่งการนำสวดมนต์ขอพร ตั้งสติแล้วฟังให้ทันก็พอจ้า ซึ่งการไปสักการะเจดีย์ชเวดากองนั้นไม่ใช่ว่าขึ้นไปแล้วจะไหว้ขอพรตรงไหนก็ได้น้า เราต้องยืนยังจุดสำหรับไหว้องค์เจดีย์ ที่บริเวณลานเจดีย์รูปดาวทางทิศเหนือ หรือตะวันออกเฉียงเหนือใกล้กับเสาหงส์ด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าขอพรตรงจุดนี้จะทำให้พรสัมฤทธิผล

วัดเชาะทะจี้(Chaukhtatgyi Buddha Temple) 

เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระพุทธไสยาสน์ (The Giant Reclining Buddha) ที่ใหญ่และสง่างามที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1907 มีอายุราวกว่า 100 ปี พระพุทธรูปปางค์ท่านอนในวันที่พระพุทธเจ้าสิ้นพระชนม์ องค์ยักษ์นี้มีความยาว 65 เมตร สูง 16 เมตรห่มด้วยจีวรทองคำ ใบหน้าถูกแต่งด้วยสีสดเด่นชัด ดวงตาทำมาจากแก้ว ที่ฝ่าเท้าขององค์พระพุทธไสยาธสน์ทาด้วยสีแดง และมีตารางตีแบ่งไว้ทั้งหมด 108 ช่อง ในแต่ละช่องนั้นจะถูกสลักด้วยสีทองเป็นรูปของ 108 ลักษณา หรือ สัญลักษณ์ที่เป็นมงคลของพระพุทธเจ้า (108 Lakshana) เอาไว้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม ก็จะมีจุดให้ปีนขึ้นไปยืนถ่ายรูปอยู่ที่ปลายเท้าของพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไปจนสุดถึงเศียรขององค์พระเลยค่ะ

อะมาดอว์เมียะ  หรือ เทพกระซิบ(Mya Nan Nwe)

จากตำนานเล่ากันมาชาวพม่า อะมาดอว์เมียะ คือ ธิดาของพญานาค ผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ จนเมื่อสิ้นชีวิตเลยกลายเป็น “นัต” หมายถึง ผู้ที่เป็นที่พึ่ง สังเกตป้ายทางเข้าถ้าไปทัวร์ไกด์ก็จะอธิบายกับเราว่าป้ายนั้นเขียนว่า “ห้ามส่งเสียงดังรบกวน” เพราะบริเวณนี้เป็นบริเวณศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือนั่นเองค่ะ แต่ดันมีคนเข้าใจผิดว่าห้ามส่งเสียงรบกวนท่านเทพไปซะงั้น … จึงทำให้ผู้คนที่มากราบไหว้นั้น เวลาจะขอพรเลยต้องไปกระซิบข้างๆ หูท่านแทน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาแก้บนกันนับไม่ถ้วนเลยทีเดียวนะคะ

วิธีการขอพรเทพกระซิบนั้น จะสามารถขอได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น! ห้ามลังเลใจ! ตั้งมั่นคิดคำขอไว้และเมื่อถึงเวลาก็ก้มลงไปกระซิบข้างๆ หูท่านซ้ำคำขอเดิมสามรอบ โดยปกติแล้วของบูชาเทพกระซิบนั้น จะบูชาด้วยมะพร้าว กล้วยนาก โดยสามารถซื้อได้จากที่เขาจัดไว้เป็นชุดให้ รวมถึงน้ำนม และข้าวตอก ดอกมหาหงส์ ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป แต่ในช่วงเข้าพรรษา – ออกพรรษา เทพกระซิบจะถือศีลโดยการที่จะปลดวิกผมออก ลบเครื่องสำอาง ใส่ชุดแม่ชี และสามารถบูชาได้เพียงแค่น้ำผลไม้เท่านั้นค่ะ

วัดเทพทันใจ

เจดีย์โบตะตอง (Botataung Pagoda) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า วัดเทพทันใจ นั่นเองค่า สำหรับเจดีย์โบตะตองนั้นมีอายุกว่า อายุ 2,500 ปี สร้างขึ้นโดยชาวมอญเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ด้านในด้วย สำหรับเจดีย์แห่งนี้เราสามารถเข้าไปชมด้านในได้นะคะ ผ่านด้านในจะถูกแบ่งเป็นหลายห้องเดินทะลุต่อกันได้ ซึ่งฝาผนังด้านในนั้นถูกสร้างด้วยทองคำ สลักเป็นสัญลักษณ์มงคลของพระพุทธเจ้าเอาไว้ค่ะ ส่วนพระบรมสารีริกธาตุนั้นจะถูกจัดแสดงอยู่ในศาลงาช้างที่ถูกตกแต่งอย่างล้ำค่าด้วยทองคำเพชร และอัญมณีภายในเจดีย์ค่ะ


นัตโบโบยี (Natboboyee) หรือ เทพทันใจ

ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนักท่องเที่ยวเช่นคนไทยเป็นอย่างมาก สำหรับการเข้าไปขอพรเทพทันใจ นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายเงิน 6,000 จ๊าด หรือ ประมาณ 120 บาทเพื่อเข้าไปด้านใน ไปกับทัวร์ก็จะดีมากๆ เพราะไกด์จะแนะนำการขอพรอย่างละเอียดให้แต่ละคนเลยค่ะ เพราะการขอพรในแบบฉบับพม่านั้น มีขั้นตอนเยอะมากจริงๆ แต่หญิงปุ๊กจะไม่ย่อท้อ จะอธิบายตามสเต็ปกันเลยค่ะ อยากให้ทุกคนสมหวังไปด้วยกัน!

มาค่ะ เริ่มกันที่ซื้อชุดบูชา ก็จะมีระดับความอลังการต่างกันไปตามเม็ดเงินของเราค่ะ เตรียมแบงก์ออกมาสองใบ จะแบงก์ 20 100 500 หรือ 1,000 ก็ไม่ว่ากันจ้า แต่ส่วนมากคนไทยจะนิยมใช้แบงก์ 20 กับแบงก์ 100 นะคะ โดยเราจะม้วนแบงก์ 2 ใบนี้เป็นกรวยทรงยาวๆ หน่อย แล้วก็เอาใส่ซ้อนกัน จากนั้นเมื่อถึงคิวเรานะคะ ตั้งสมาธิ นึกพรที่จะขอเอาไว้ วางของไหว้ลงบนโต๊ะบูชา แล้วเสียบเงินที่เราม้วนซ้อนกันไว้เข้าไปในระหว่างนิ้วของเทพทันใจ พนมมือตั้งจิต เอาหน้าผากของเราไปจรดกับปลายนิ้วชี้ของท่านเทพแล้วอธิษฐานค่ะ ขอให้ครบนะคะ! แต่ก็อย่าเยอะเกินไปเนอะ พอประมาณ ไม่งั้นท่านคงต้องสุ่มเอาเดี๋ยวจะได้ไม่ครบ 5555 เมื่อขอพรเสร็จแล้ว ให้เราดึงเงินใบที่ซ้อนอยู่ออกมาค่ะ จากนั้นก็ออกมาแล้วให้พับเงินเป็น ฮู้ หรือ สามเหลี่ยม พกติดตัวไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลจ้า สาธุ เพี้ยง (-/\-)









จองผ่านไลน์
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
wangeducation