เที่ยวจีนใครว่าเอ้าท์! 5 เมืองจีนที่ต้องไปในปี 2025 รีบเที่ยวก่อนตกเทรนด์

             ถ้าใครยังไม่เคยไปจีนแนะนำให้ลองไปเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองแรกเลยค่ะ เซี่ยงไฮ้เป็นมหานครที่ถูกจัดให้มีความไฮโซเป็นอันดับ 5 ของโลก ถูกขนานนามว่าเป็น “นครปารีสแห่งตะวันออก” เป็นเมืองที่มีผู้คนหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของจีนและเป็นผู้นำความเจริญในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี สถาปัตยกรรม คมนาคมขนส่ง ไปจนถึงด้านแฟชั่น อีกทั้งในเมืองยังมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้หุ่นยนต์ AI และการสแกนชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนแบบที่แทบไม่ง้อเงินสดอีกต่อไป นอกจากนี้หากไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้เราก็จะได้เห็นการผสมผสานวัฒนธรรมจีนเข้ากับวัฒนธรรมตกวันตกได้อย่างลงตัว เพราะเซี่ยงไฮ้มีย่านเมืองเก่าที่อยู่ใกล้กับย่านห้างสรรพสินค้าอยู่จำนวนมาก อีกทั้งในตัวเมืองยังตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกที่มีเอกลักษณ์มากมาย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ยุโรปนิด ๆ และยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกระดับโลกอย่างดิสนีย์แลนด์อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มือใหม่หัดเที่ยวจีนจะต้องชอบแน่นอนค่ะ

• เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์

• เดอะบันด์ หรือหาดไว่ทาน

• หอไข่มุกตะวันออก

• สวนอี้หยวน

• ถนนนานจิง

• เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว

            ไปจีนทั้งทีจะพลาดเมืองหลวงอย่างเมืองปักกิ่งไปได้ยังไง ปักกิ่งก็เป็นอีกเมืองที่เหมาะสำหรับคนที่ไปจีนครั้งแรกเหมือนกันค่ะ เพราะถ้าไปเที่ยวปักกิ่งเราจะสามารถเก็บครบทุกแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศจีนเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม หรือ จัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่ถึงแม้จะเป็นแหล่งที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย ก็ใช่ว่าจะไม่เจริญนะคะ แน่นอนว่ากรุงปักกิ่งก็มีความเจริญเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำ ๆ ไม่แพ้เมืองอื่นและยังมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีนด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Universal Studio Beijing ด้วยนะคะ บอกเลยว่าเป็นอีกเมืองที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินได้ทุกวัยค่ะ

• กำแพงเมืองจีน

• พระราชวังต้องห้าม

• จัตุรัสเทียนอันเหมิน

• Universal Studio Beijing Resort

• หอฟ้าเทียนถาน

• กาแล็คซี่โซโห

             สำหรับใครกำลังมองหาเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยแปลกตา แนะนำให้ลองไปเมืองคุนหมิงเลยค่ะ คุนหมิงได้รับการขนานนามว่าเป็น “นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ” เพราะเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศรื่นรมย์ เย็นสบายตลอดทั้งปีและมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเที่ยวได้ทุกช่วงฤดู สำหรับคนไทยใช้เวลาบินไปแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จึงเป็นอีกเมืองยอดฮิตของคนไทยเลยค่ะ ที่คุนหมิงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้คะแนน 5A และเป็นมรดกโลก นั่นคือ อุทยานป่าหิน ที่ดูสวยแปลกตาด้วยเสาหินปูนจำนวนมาก ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ และยังมีถ้ำหินปูนอยู่มากมายอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกแห่งที่สวยราวกับอยู่ในภาพวาดจีน บอกเลยว่าจะพลาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ คุนหมิงยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ จึงเหมาะกับใครที่เป็นสายเที่ยวเชิงประวัติศาตร์เพราะมีหลายวัดเก่าแก่ที่ให้ได้แวะชม แต่สายช้อปก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปเพราะที่นี่ก็มีย่านการค้าให้ได้ช้อปปิ้งเช่นกันค่า

• อุทยานป่าหินคุนหมิง

• เมืองเก่าต้าหลี่

• เจดีย์สามองค์ต้าหลี่

• เขาซีซาน (ประตูมังกร)

• ภูเขาหิมะคุนหมิงเจี้ยวซื่อ

• วัดหยวนทง

             เฉิงตูหรือเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบ้านเกิดของเจ้าหมีแพนด้าแสนน่ารักนั่นเองค่ะ เฉิงตูมักเป็นเมืองที่ติดอันดับจากการโหวตว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ และยังเป็นเมืองหลักติดอันดับ Top 4 ของจีนอีกด้วยเพราะเป็นเมืองที่เจริญไปด้วยเทคโนโลยี แต่ยังรักษาวัฒนธรรมเก่าแก่เอาไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเมืองหนึ่งในจีนจนได้รับการขนานนามว่า “มหานครสีเขียว” ซึ่งคว้าตำแหน่งเมืองสีเขียวน่าอยู่อันดับ 1 ของจีนมากว่า 13 ปีซ้อน ดังนั้นหากใครไปเที่ยวที่นี่ก็ไร้กังวลเรื่องมลภาวะไปได้เลยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นที่เฉิงตูยังมีธรรมชาติสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตามากมาย เช่น ภูเขาสี่ดรุณี หรือที่เที่ยว 5A อย่างจิ่วจ้ายโกว แถมอาหารเสฉวนเองยังขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย จึงเป็นอีกเมืองที่อยากแนะนำให้ลองไปเที่ยวกันสักทริปดูค่ะ

• ภูเขาสี่ดรุณี

• จิ่วจ้ายโกว

• อุทยานแห่งชาติหวงหลง

• ถนนโบราณจินหลี่

• พระใหญ่เล่อซาน

• สะพานอันชุน

             ใครกำลังหาที่หนีอากาศร้อนเมืองไทยต้องไปที่นี่เลยค่ะ ฮาร์บินเมืองน้ำแข็งแห่งแดนมังกร เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเย็นมากเพราะเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับประเทศรัสเซียมากที่สุด ในช่วงฤดูหนาวจะหนาวถึงขั้นติดลบ ยิ่งนตอนกลางคืนอาจหนาวถึง -30 องศา เรียกได้ว่าหนาวสะใจคนไทยแน่นอนค่ะ และด้วยความที่อยู่ติดกับรัสเซีย สถาปัตยกรรมของที่นี่จึงมีความแปลกตากว่าเมืองอื่น เพราะจะให้อารมณ์เหมือนอยู่ยุโรปและรัสเซียมากกว่าประเทศจีน ที่เมืองฮาร์บินหากเราโชคดีอาจจะมีโอกาสได้เห็นแสงเหนือซึ่งมีโอกาสเกิดเพียงแค่ 1 ครั้งต่อปี อาจจะฟังดูน้อยแต่หากมีโอกาสได้เจอก็คงทำให้รู้สึกประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ที่ฮาร์บินยังมีเทศกาลที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมไปดูกันนั่นคือ เทศกาลหิมะ และ เทศกาลน้ำแข็ง และด้วยทิวทัศน์ที่มักถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่ตลอด จึงทำให้ที่นี่เป็นสวยงามดั่งดินแดนแห่งฝันในเทพนิยาย เป็นอีกเมืองที่ไม่ควรพลาดเช่นกันค่ะ

• หมู่บ้านหิมะ

• โบสถ์เซนต์โซเฟีย

• ภาพเขียนสิบลี้

• คฤหาสน์วอลการ์

• ถนนคนเดินจงยาง

• โรงโอเปร่าฮาร์บิน