11
Mar
ญี่ปุ่น
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะภูมิประเทศ
การแต่งกาย
ในปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นมักแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก แต่ก็ยังมีบางคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นอย่าง ชุดกิโมโนหรือชุดฮากามะอยู่ เช่น พระสงฆ์ และผู้ที่ทำอาชีพเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกตามปกติได้เลยอาจจะเลือกใส่เป็นเสื้อผ้าที่เรียบร้อย
มิดชิด เพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางไปศาสนสถาน อย่างไรก็ตามโดยส่วนมากนักท่องเที่ยวมักนิยมไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเพื่อไปชมทิวทัศน์ที่งดงาม
ไม่ว่าจะเป็นวิวของดอกซากุระบานสะพรั่ง ภาพสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี
หรือวิวของภูเขาไฟฟูจิที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว แต่ทั้งสามฤดูนี้จะมีอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นสำหรับคนไทย
จึงอยากแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าอุ่น ๆ ไปใส่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ท เสื้อขนเป็ด
ผ้าพันคอ ถุงมือ หมวกไหมพรม กางเกงบุขน กางเกงเลกกิ้ง และเสื้อผ้าฮีทเทค เป็นต้น
เพื่อจะได้ไม่ป่วยและสนุกสนานตลอดการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
สถานที่ท่องเที่ยว
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายเพราะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม เป็นชนชั้นนำของโลกในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของญี่ปุ่นมีหลายที่ด้วยกัน แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่าสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ดังนี้
สัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น
·
ภูเขาไฟฟูจิ
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่ไม่ว่าใครก็อยากจะไปเห็นด้วยตาสักครั้ง
คงหนีไม่พ้น ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ใคร
ๆ ก็รู้จัก ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยความสูง
3,776 เมตร จึงเป็นภูเขาไฟที่มองเห็นได้จากหลาย ๆ
จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเห็นความงดงามของภูเขาไฟฟูจิชัด ๆ
มักจะเดินทางไปจังหวัดยามานาชิและจังหวัดชิซูโอกะ
เพราะภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ระหว่างสองจังหวัดนี้นั่นเอง บริเวณที่นิยมไปกัน ได้แก่
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก ทะเลสาบคาวากุจิโกะ และ ทะเลสาบทานุกิ เป็นต้น
· โตเกียวทาวเวอร์
หอคอยสื่อสารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตมินาโตะเมืองโตเกียว
เป็นเอกลักษณ์ด้วยสีแดงอันโดดเด่น เป็นจุดชมวิวยอดฮิตในเมืองโตเกียว ปัจจุบันเป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับที่สองของญี่ปุ่นรองจากโตเกียวสกายทรี
ด้วยความสูงกว่า 333 เมตร ทำให้เห็นรอบ ๆ เมืองโตเกียวได้อย่างง่ายดาย
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มักปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ ซีรีส์ อนิเมะ และมังงะมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น ในภาพยนตร์เรื่อง Godzilla หอคอยสีแดง
ๆ ที่ถูกเจ้าก็อดซิลล่าพังลงนั่นก็คือโตเกียวทาวเวอร์นั่นเอง
เชื่อว่าสายภาพยนตร์จะต้องคุ้น ๆ กับหอคอยสีแดงนี้อย่างแน่นอน
· เสาโทริอิสีแดงที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ
นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อเห็น
เสาโทริอิสีแดง ใคร ๆ ก็ต่างนึกถึงประเทศญี่ปุ่นทันที
และเสาโทริอิที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่กลางน้ำที่
ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ บนเกาะมิยาจิมะในจังหวัดฮิโรชิมะ
เสาโทริอิสีแดงนี้เรียกว่า โอโทริอิ
ได้ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกและสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น
และคนญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่าเสาโทริอิสีแดงนี้คือประตูที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ
โอโทริอินี้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1875 มีความสูงถึง 16 เมตร ใช้เทคนิคค้ำด้วยเสาสี่ต้น
ที่สำคัญคือตัวเสาเหล่านี้ไม่ได้ตอกลงกับพื้น แต่เพียงแค่ตั้งเอาไว้เฉย ๆ
เพียงเท่านั้น ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าเสาโทริอิอื่นและเทคนิคการวางที่ไม่เหมือนใคร
โอโทริอิจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
ศาสนสถานสำคัญของประเทศ
ชาวญี่ปุ่นมีหลากหลายความเชื่อ
มีทั้งคนที่นับถือพุทธศาสนา คริสต์ศาสนา
และศาสนาดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นอย่างศาสนาชินโต
ทำให้ทั่วประเทศญี่ปุ่นเต็มไปด้วยศาสนสถานที่สำคัญมากมาย
แต่ในวันนี้จะขอยกตัวอย่างศาสนสถานในศาสนาพุทธที่ใกล้เคียงกับคนไทยมากที่สุด
นั่นคือ วัดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ยกตัวอย่างเช่น
·
พระใหญ่แห่งวัดโคโตคุอิน
หากนึกถึงพระพุทธรูปเด่น
ๆ ของญี่ปุ่นหลายคนคงนึกถึง พระใหญ่แห่งวัดโคโตคุอิน ในจังหวัดคามาคุระ เป็นพระพุทธรูปหล่อจากสำริดและทองแดง
มีความสูง 13.35 เมตร น้ำหนัก 95 กิโลกรัม
ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากพระใหญ่แห่งวัดโทไดจิในจังหวัดนารา
เป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดคามาคุระ
และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่สำคัญทั้งของชาวญี่ปุ่นและชาวไทย นับเป็นมรดกสำคัญของประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดังด้วยสีขององค์พระพุทธรูปที่เป็นสีเขียวจากการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีของโลหะที่สะสมมาหลายร้อยปี
หากใครต้องการสัมผัสวิถีชาวพุทธนิกายมหายานแบบคนญี่ปุ่น ก็ขอแนะนำให้แวะไปสักการะสักครั้งหนึ่ง
· วัดเซนโซจิ (วัดอาซากุสะ)
วัดเซนโซจิ
หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อว่า วัดอาซากุสะ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กฮิตในกรุงโตเกียวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชาวพุทธนิกายมหายานของชาวเอโดะที่ยังหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน
บางคนก็จะเรียกวัดนี้ว่า วัดโคมแดง เพราะที่นี่มีเอกลักษณ์คือ
โคมแดงอันใหญ่กว่า 3 เมตรที่แขวนไว้ตรงซุ้มประตูทางเข้า
ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมที่มีเรื่องเล่ากันว่าถูกพบในแม่น้ำซูมิดะโดยสองพี่น้องชาวประมงในปี
ค.ศ.628
เป็นอีกหนึ่งศาสนสถานที่เก่าแก่และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
แหล่งการค้ายอดนิยม
ในญี่ปุ่นมีหลากหลายย่านการค้าที่เหล่านักช้อปชอบไปกัน
ซึ่งส่วนมากตามหัวเมืองใหญ่ ๆ มักมีย่านการค้าอยู่หลายแห่ง
แต่ที่ชาวไทยชอบไปกันคงหนีไม่พ้นแหล่งการค้าเหล่านี้
·
ย่านชิบูยะ
ย่านชิบูยะที่ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียวนับเป็นอีกแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของญี่ปุ่นและเป็นย่านช้อปปิ้งยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเพราะเต็มไปด้วยร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมมากมาย
และยังเป็นเพราะย่านชิบูยะนี้มีอีกที่ที่พลาดไม่ได้ นั่นคือ ห้าแยกชิบูยะ
ทางข้ามม้าลายยักษ์ที่เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์
และซีรีส์ดังมากมาย ในบางช่วงเวลามีผู้คนเดินข้ามห้าแยกนี้พร้อม ๆ กันกว่า 3,000 คน แต่แม้ว่าจะมีผู้คนคับคั่งแค่ไหน ห้าแยกชิบูยะนี้ก็เป็นทางม้าลายที่ใคร
ๆ ก็อยากจะลองเดินข้ามกันเนื่องจากเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศญี่ปุ่น
จึงเป็นสาเหตุที่ย่านชิบูยะนี้มักจะหนาแน่นไปด้วยผู้คน
· ย่านชินไซบาชิ
ย่านชินไซบาชิตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า
เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่หากแวะไปเที่ยวภูมิภาคคันไซยังไงก็ต้องแวะไปกัน
ถนนการค้ายอดฮิตนี้มีความยาวกว่า 600 เมตร ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย
ทั้งร้านค้าแบรนด์ญี่ปุ่น แบรนด์ต่างชาติ และ สินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง
อีกทั้งยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ ตลอดทั้งเส้น ทำให้เป็นย่านการค้าที่คึกคักอยู่ตลอดทั้งวัน
และที่สำคัญย่านชินไซบาชินี้คือที่ตั้งของแลนด์มาร์กสำคัญอย่างป้ายไฟกูลิโกะ (Glico
Running Man) ที่ไม่ว่าใครก็อยากจะแวะมาเช็คอินและถ่ายภาพไปลงในโซเชียลมีเดีย
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรม และ สถานที่ที่สวยงามมากมายจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มักถูกจัดให้เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศและพักผ่อนหย่อนใจกันสักครั้งในชีวิต